k.ooshiroタイ日翻訳ブログ Thai-Japanese โอชิโระ บล็อก ภาษาไทย - ญี่ปุ่น

タイ語翻訳。タイ語学習 การแปลไทย-ญี่ปุ่น 

命の授業 การเรียนการสอนชีวิต

口は人を励ます言葉や感謝の言葉を言うために使おう。 
ปาก ใช้เพื่อพูดคำว่า ขอบคุณและคำที่ให้กำลังใจกับคนอื่นกันเถอะ 


耳は人の言葉を最後まで聴いてあげるために使おう。 
หู ใช้เพื่อฟันเรื่องที่คนอื่นเล่าจนจบกันเถอะ 


目は人の良いところを見るために使おう。 
ตา ใช้เพื่อมองสิ่งที่ดีของเขากันเถอะ 


手足は人を助けるために使おう。
แขนขา ใช้เพื่อช่วยเหลือคนกันเถอะ 


心は人の痛みがわかるために使おう。 
จิตใจ ใช้เพื่อเข้าใจจุดที่เจ็บของคนอื่นกันเถอะ 


私を助けれてくれた人たちがしてくれたことを 今度は、私がしよう。 
คราวนี้ ผมจะกระทำเช่นเดียวกับที่ผมได้รับ 


命の授業
การเรียนการสอนชีวิต 


腰塚勇人ฮะยะโตะ โคะชิซุคะ 


積極的なシェアをお願いします 
โปรดช่วยกันแชร์ด้วยครับ


出典 ที่มา : 命の授業
Photo : https://public.muragon.com/ny16mv0q/2sm6v4kx.png?dummy=1570628162398
翻訳 การแปล : ooshiro

คนที่มีลักษณะแบบเดียว 斉藤宗次郎 『雨にも負けず風にも負けず』の実際のモデル


以下(いか)の文章(ぶんしょう)に出(で)てくる斉藤宗次郎(さいとうそうじろう)とは、宮沢賢治作(みやざわけんじさく)の『雨(あめ)にも負(ま)けず風(かぜ)にも負(ま)けず』の実際(じっさい)のモデルとなった人(ひと)です。 
คนชื่อโซะจิโระ ซะอิโต้ ที่เล่าอยู่ในประโยคดังต่อไปนี้ เป็นคนที่มีลักษณะแบบเดียวกันกับกลอน “ ไม่อ่อนแอกับฝน ไม่อ่อนแอกับลม ” ของนักเขียน เคนจิ มิยะซะวะ 


斉藤宗次郎(さいとうそうじろう)は、岩手県(いわてけん)の花巻(はなまき)に 1887年(ねん)に禅宗(ぜんしゅう)の寺(てら)の三男(さんなん)として生(う)まれました。 
โซะจิโระ ซะอิโต้เกิดในปีค.ศ.1887ที่จังหวัดอิวะแตะ เมืองฮะนะมะคิ เป็นลูกชายคนที่3 ในบ้านที่เป็นวัดนิกายเซน 


彼(かれ)は、小学校(しょうがっこう)の教師(きょうし)になりますが、 内村鑑三(うちむらかんぞう)の影響(えいきょう)を受(う)けて聖書(せいしょ)を 読(よ)むようになり、洗礼(せんれい)を受(う)けてクリスチャンになりました。 
เขาได้เป็นอาจารย์โรงเรียนประถม และได้สนิทสนมกับนายเคนโซะ อูจิมูละ ซึ่งนับถือศาสนาคริสต์ เขาก็เลยอยากอ่านพระคัมภีร์ไบเบิล และได้ไปรับศีลล้างบาปกลายเป็น ชาวคริสเตียน 


しかし、それからが大(おお)きな戦(たたか)いのはじまりでした。 
หลังจากนั้น เริ่มมีอุปสรรคในการดำเนินชีวิต 


当時(とうじ)は、キリスト教(きょう)は、「ヤソ教(きょう)」「国賊(こくぞく)」と呼(よ)ばれていました。 
ในสมัยนั้น ศาสนาคริสต์ถูกเรียกโดยคนญี่ปุ่นว่า “ ศาสนายะโซะ ” “ คนทรยศกบฏต่อชาติ ” 


彼(かれ)は洗礼(せんれい)を受(う)けた時(とき)から迫害(はくがい)を受(う)けるようになり、石(いし)を投(な)げられ、親(おや)にも勘当(かんどう)され、小学校(しょうがっこう)の教師(きょうし)を辞(や)めさせられてしまいました。 
เขาถูกกลั่นแกล้งตั้งแต่ไปรับศีลล้างบาป มีคนปาหิน ถูกพ่อแม่ผลักไส และถูกไล่ออกจากโรงเรียน 


それだけではありません。迫害(はくがい)の手(て)は、家族(かぞく)にまで及(およ)んできました。 近所(きんじょ)で火事(かじ)が起(お)きたとき、全然(ぜんぜん)、関係(かんけい)がないのに、嫌(いや)がらせで、 放水(ほうすい)され、家(いえ)を壊(こわ)されたことがありました。 
ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ครอบครัวก็ถูกกลั่นแกล้ง
เคยมีเรื่องหนึ่งว่าเมื่อเกิดไฟไหม้ใกล้บ้าน คุณโซะจิโระ ไม่เกี่ยวกับไฟไหม้อะไรเลย แต่ ถูกฉีดนํ้าอย่างแรงโดยการกลั่นแกล้ง บ้านจึงพัง 


何度(なんど)もガラスを割(わ)られることもありました。 
และบ่อยครั้งที่ถูกปาก้อนหินใส่กระจก


そして、さらにひどい迫害(はくがい)が起(お)こりました。 
และเกิดการกลั่นแกล้งที่ยิ่งแย่กว่านั้นขึ้นมา 


9歳(さい)になる長女(ちょうじょ)の愛子(あいこ)ちゃんが「ヤソの子供(こども)」と言(い)われてお腹を蹴(け)られ、腹膜炎(ふくまくえん)を起(お)こして亡(な)くなってしまったのです。 
ลูกสาวคนโตชื่อเจ้าหนูไอโกะอายุ9ขวบ ถูกพูดร้ายว่า “ เด็กยะโซะ ” และถูกเตะท้อง จึงเป็นโรคเยื่อกระเพาะอักเสบ จนเสียชีวิตไป 


亡(な)くなる時(とき)、愛子(あいこ)ちゃんは、讃美歌(さんびか)を歌(うた)って欲(ほ)しいと言(い)い、讃美歌(さんびか)を歌(うた)うと、「神(かみ)は愛(あい)なり」と書(か)いて天(てん)に召(め)されたそうです。 
ขณะที่กำลังจะลาโลก เจ้าหนูไอโกะบอกว่าขอให้ขับเพลงสวดของศาสนาคริสต์ ได้ยินว่าพ่อขับเพลงให้ เจ้าหนูไอโกะได้เขียนว่า“ พระเจ้าคือความรัก ”และจากไป 


宗次郎(そうじろう)はそのような苦(くる)しみの中(なか)で、神様(かみさま)に祈(いの)りました。 
โซะจิโระสวดภาวนาถึงพระเจ้าอยู่ในสถานการณ์ทุกข์ทรมานอย่างนั้น 


そして、彼(かれ)は「御心(おこころ)がなりますように」とくじけることなく神様(かみさま)を信(しん)じ、 神様(かみさま)に従(したが)い続(つづ)けたのです。 
และเขานับถือพระเจ้าโดยไม่ท้อแท้ใจว่า “ขอให้ความคิดของพระเจ้ากลายเป็นความจริง ” และกระทำตามคำของพระเจ้าเรื่อยไป 


普通(ふつう)なら、迫害(はくがい)のない違(ちが)う土地(とち)へ移(うつ)るところですが、宗次郎(そうじろう)は、むしろ、その土地(とち)の人々(ひとびと)に神様(かみさま)の愛(あい)を持(も)って仕(つか)えることを選びました。 
ถ้าเป็นปกติ ควรจะย้ายที่อื่นที่ไม่ได้รับการกลั่นแกล้ง แต่โซะจิโระกลับเลือกใคร่รับใช้ชาวคนพื้นบ้านด้วยถือความรักของพระเจ้า 


牛乳配達(ぎゅうにゅうはいたつ)と新聞配達(しんぶんはいたつ)のため一日40キロの配達(はいたつ)の道(みち)のりを走(はし)りながら迫害(はくがい)する人々(ひとびと)にキリストを宣(の)べ伝(つた)えました。 
เขาวิ่งไปตามทางทั้ง40กิโลเมตรต่อวันเพื่อส่งหนังสือพิมพ์และนม พร้อมเล่าถ่ายทอดพระเยซูให้ผู้คนที่กลั่นแกล้งฟัง


10メートル走(はし)っては神様(かみさま)に祈(いの)り、10メートル歩(ある)いては神様(かみさま)に感謝(かんしゃ)をささげた話(はな)しはあまりにも 有名(ゆうめい)です。 เป็นเรื่องที่เล่าลือต่อๆกันมาว่า เขาวิ่งไป10เมตรแล้วหยุดอธิษฐานถึงพระเจ้า และเดินไปอีก10เมตรแล้วหยุดและประทานพรพระเจ้า เป็นเรื่องที่มีชื่อเสียงมาก 


そして、子供(こども)に会(あ)うとアメ玉(たま)をやり、仕事(しごと)の合間(あいま)には病気(びょうき)の人(ひと)のお見舞(みま)いをし、励(はげ)まし、祈(いの)り続(つづ)けました。 
และเมื่อพบกับเด็กๆ เขาจะให้ลูกอม และช่วงเวลาที่หยุดพักในการทำงานเขาะไปเยี่ยมคนป่วยเพื่อให้กำลังใจ และอธิษฐานไปเรื่อยๆ 


彼(かれ)は雨(あめ)の日(ひ)も、風(かぜ)の日(ひ)も、雪(ゆき)の日(ひ)も休(やす)むことなく町(まち)の 人達(ひとたち)のために祈(いの)り、働(はたら)き続(つづ)けました。 
ไม่ว่าจะมีในวันที่ลมพัดแรงหรือวันที่ฝนตก เขาก็อธิษฐานและทำงานสำหรับคนในเมืองอย่างต่อเนื่อง


彼(かれ)は「でくのぼう」と言(い)われながらも最後(さいご)まで愛(あい)を貫(つらぬ)き通(とお)したのです。 
ทั้งๆ ที่เขาถูกเรียกว่าคนไม่มีประโยชน์ แต่ด้วยความรักในพระเจ้าเขาก็ไม่ล้มความตั้งใจ 


そして、1926年(ねん)に彼(かれ)は内村鑑三(うちむらかんぞう)に招(まね)かれて、花巻(はなまき)を去(さ)って東京(とうきょう)に引(ひ)っ越(こ)すことになりました。 
วันต่อมา ตกลงกันว่าเขาต้องจากไปฮะนะมะคิย้ายไปที่โตเกียว ด้วยคำเชิญชวนของเคนโซะ อุจิมูละ 


花巻(はなまき)の地(ち)を離(はな)れる日(ひ)、誰(だれ)も見送(みおく)りには来(き)てくれないだろうと思(おも)って駅(えき)に行くと、 
ในวันที่ลาจากเมืองฮะนะมะคิ คิดอยู่ว่าอาจจะไม่มีใครมาส่ง แต่พอไปถึงสถานีรถไฟ 


そこには、町長(ちょうちょう)をはじめ、町(まち)の有力者(ゆうりょくしゃ)、
学校(がっこう)の教師(きょうし)、 生徒(せいと)、神主(かんぬし)、僧侶(そうりょ)、
一般人(いっぱんじん)や物乞(ものご)いにいたるまで、身動(みうご)きがとれないほど集(あつ)まり、 
ปรากฏว่ามีคนชุมนุมกันอย่างมากตั้งแต่ระดับ เทศมนตรี อาจารย์โรงเรียน นักเรียน เจ้าอาวาสของวัดชินโต พระสงค์ คนทั่วไปและจนถึงคนขอทาน บรรยากาศตอนนั้นมีคนแน่นมากขนาดไม่สามารถขยับตัวได้ 
駅長(えきちょう)は、停車時間(ていしゃじかん)を延長(えんちょう)し、汽車(きしゃ)がプラットホームを離(はな)れるまで徐行(じょこう)させるという配慮(はいりょ)をしたというのです。 
ได้ยินว่านายสถานีจัดยื่นเวลาหยุดรถไฟให้รถไฟชะลอความเร็วจนกว่าจะพ้นจากชานชาลา 


実(じつ)はその群衆(ぐんしゅう)の中(なか)に若(わか)き日(ひ)の宮沢賢治(みやざわけんじ)もいたのです。 
ที่จริงแล้วในฝูงชนนั้น มีนักเขียนชื่อเคนจิ มิยะซะวะ ตอนที่ยังเป็นหนุ่มซึ่งเป็นผู้ที่เขียนบทกลอน“ ไม่อ่อนแอกับฝน ไม่อ่อนแอกับลม ”มายืนส่งอยู่ 


それは、彼(かれ)が「御心(みこころ)がなりますように」と祈(いの)り、神様(かみさま)の御心(みこころ)に従(したが)った強(つよ)い信仰(しんこう)と、どこまでも人々(ひとびと)を愛(あい)し続(つづ)けた愛(あい)の業(ぎょう)がそうさせたのだと思(おも)います。 การที่มีคนมาชุมนุมกัน คงเพราะการทำงานด้วยความรักที่โซะจิโระอธิษฐานว่า “ขอให้ความคิดของพระเจ้ากลายเป็นจริง ” และยึดมั่นอย่างแรงตามความคิดของพระเจ้าและรักคนอื่นๆอยู่เสมอไม่มีสิ้นสุดจึงทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ 


この人こそ、東(ひがし)に病気(びょうき)の子供(こども)あれば行(い)って看病(かんびょう)してやり、西(にし)に疲(つか)れた母(はは)あれば、行(い)ってその稲束(いねたば)を負(お)いという宮沢賢治(みやざわけんじ)の詩(し)にあるようなことを普通(ふつう)にやっていた人(ひと)でした。 คนนี้แหละ เป็นคนที่กระทำตามอย่างในกลอนของเคนจิ มิยะซะวะ ดังความว่า ทางทิศตะวันออก ถ้ามีเด็กป่วย ก็จะไปดูแลให้ ทางทิศตะวันตก ถ้ามีแม่ที่เหน็ดเหนื่อย ก็จะไปแบกต้นข้าวนั้นให้ อย่างเป็นเรื่องธรรมดา 


そういう宗次郎(そうじろう)の生活(せいかつ)ぶりを見(み)ていた、 宮沢賢治(みやざわけんじ)が、「こういう人(ひと)になりたかった」という思(おも)いを込(こ)めて、「雨ニモマケズ」という詩(し)を書(か)いたのではと言(い)われています。 
เล่ากันมาว่าเคนจิ มิยะซะวะอาจจะได้เห็นการใช้ชีวิตของโซะจิโระอย่างนั้น จึงเขียน กลอน“ ไม่อ่อนแอกับฝน ไม่อ่อนแอกับลม ”ด้วยความรู้สึกสำนึกว่าฉันอยากจะเป็นคนอย่างนี้


内部リンク  : 



出典 ที่มา : URLが不明
Photo : https://public.muragon.com/ny16mv0q/sdfug8pi.jpg?dummy=1570629514014
翻訳 แปล : katsuooshiro

タイ日翻訳 ไม่อ่อนแอกับฝน 雨(あめ)にも負(ま)けず。


雨(あめ)にも風(かぜ)にも負(ま)けず。 ไม่อ่อนแอกับลม และฝน


雪(ゆき)にも夏(なつ)の暑(あつ)さにも負(ま)けぬ丈夫(じょうぶ)なからだをもち 慾(よく)はなく決(けっ)して怒(いか)らずいつも静(しず)かに笑(わら)っている。 
มีร่างกายที่แข็งแรงต่อสภาพอากาศในหน้าร้อนและหิมะในหน้าหนาว ความโลภไม่มี ความโกรธไม่เกิดขึ้น ใบหน้าต้องยิ้มแย้มอยู่เสมอ 


一日(いちにち)に玄米四合(げんまいよんごう)と 味噌(みそ)と少(すこ)しの野菜(やさい)を食(た)べ、 あらゆることに自分(じぶん)を勘定(かんじょう)に入(い)れず 
ในหนึ่งวัน กินข้าวกล้องเพียง 4 ชาม มิโซะ(เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น)และผักนิดหน่อย ไม่ต้องการผลประโยชน์ส่วนตัว 


(人(ひと)の話(はなし)を)よく見聞(みき)きし分(わ)かりそして忘(わす)れず。 (自分(じぶん)の中(なか)に私利私欲(しりしよく)はない) 
(จะตั้งใจดูและฟังแต่เรื่องของคนอื่นโดยไม่เคยคิดเรื่องของตัวเอง) 


野原(のはら)の松(まつ)の林(はやし)の陰(かげ)の小(ちい)さな萱(かや)ぶきの小屋(こや)にいて、 
พักอาศัยอยู่กระท่อมน้อยที่มุงหลังคาด้วยฟางในป่าใต้ต้นสนในทุ่งหญ้า 


東(ひがし)に病気(びょうき)の子供(こども)あれば 行(い)って看病(かんびょう)してやり、 ทางทิศตะวันออก ถ้ามีเด็กป่วย ก็จะไปดูแลให้ 


西(にし)に疲(つか)れた母(はは)あれば行(い)ってその稲(いね)の束(たば)を負(お)い、 
ทางทิศตะวันตก ถ้ามีแม่ที่เหน็ดเหนื่อย ก็จะไปแบกต้นข้าวนั้นให้ 


南(みなみ)に死(し)にそうな人(ひと)あれば行(い)ってこわがらなくてもいいといい、 
ทางทิศใต้ ถ้ามีคนที่กำลังจะลาโลก ก็จะไปบอกว่าไม่ต้องกลัวนะ 


北(きた)に喧嘩(けんか)や訴訟(そしょう)があればつまらないからやめろといい。 
ทางทิศเหนือ ถ้ามีเรื่องทะเลาะกัน ก็จะไปบอกว่าอย่าทะเลาะกันเลย 
(微力(びりょく)ながらも社会(しゃかい)に役立(やくだ)とうとする姿(すがた) (เขาต้องการทำประโยชน์ต่อสังคมแม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม )


日照(ひで)りの時(とき)は涙(なみだ)を流(なが)し。 
ตอนอากาศแห้งแล้ง ได้แต่ร้องไห้ 
(日照(ひで)りの時(とき)は、それに苦(くる)しむ農民(のうみん)の姿(すがた)と 自然(しぜん)に対(たい)しての己(おのれ)の無力(むりょく)さを感(かん)じ、 涙(なみだ)を流(なが)すのみ。) 
( เพราะตัวเองรู้สึกไร้ความสามารถต่อธรรมชาติ และเห็นใจกับ ชาวนาที่ทุกข์ทรมานกันกับธรรมชาตินั้น จึงทำได้เพียงแต่ร้องไห้) 


寒(さむ)さの夏(なつ)はおろおろ歩(ある)き。 
หน้าร้อนที่ค่อนข้างหนาวกว่าทุกปี ทำได้เพียงแต่เดินไปเรื่อยๆ 
(冷夏(れいか)の時(とき)も、自然(しぜん)に対(たい)してなす術(すべ)なく、おろおろ歩(ある)くのみ。) 
( หน้าร้อนที่ค่อนข้างหนาวกว่าทุกปี ไม่รู้ว่ามีวิธีอย่างไรที่จะแก้ไขธรรมชาตินั้นได้ จึงทำได้แต่เดินไปเรื่อยๆเท่านั้น ) * หน้าร้อนที่ ค่อนข้างหนาว ส่วนใหญ่จะมีปริมาณผลผลิตทางเกษตรน้อยลง * 


みんなにでくのぼーと呼(よ)ばれ褒(ほ)められもせず苦(く)にもされず。 
ผมถูกเรียกว่าคนไม่มีประโยชน์ ไม่มีใครชม 
(おろおろ歩(ある)いた事(こと)で、周(まわ)りからは、でくのぼーとよばれ、褒(ほ)められることなど無(な)い、 それでいて、煙(けむ)たがられる事(こと)も無(な)いが、無(な)くてはならない空気なような人。) ( เนื่องจากทำได้เพียงเดินไปรอบๆ ทำให้เขาถูกเรียกว่าคนไม่มีประโยชน์จากคนรอบข้าง และไม่มีใครชม ถึงแม้จะไม่ได้สร้างความรำคาญให้ใคร แต่ก็ขาดไม่เช่นเดียวกับอากาศที่เราหายใจอยู่ทุกๆวัน ) 


そういうものにわたしはなりたい。 
ฉันอยากจะเป็นคนอย่างนั้น 


カッコは訳者の解釈である。 อักษรในวงเล็บสีแดง เพียงแค่เป็นการตีความจากผู้แปลเท่านั้น


内部リンク  :



出典 ที่มา : 宮沢 賢治 Kenji Miyazawa
Photo : https://public.muragon.com/ny16mv0q/ai5hnflh.jpg?dummy=1570629612658
翻訳 การแปล : ooshiro 
ช่วยกดนี้ ↓ ด้วยครับ

にほんブログ村 外国語ブログへ

にほんブログ村ブログランキング・にほんブログ村へにほんブログ村自分で翻訳! 外国語ブログ・テーマ
自分で翻訳!外国語学習(英語以外) 外国語ブログ・テーマ
外国語学習(英語以外)
翻訳ランキング
タイ語ランキング